ฤดูกาล 2012 ที่จบลงไป สี่นักเทนนิสชายที่ถูกกล่าวขวัญถึงมากที่สุด ยังคงเป็นเดอะบิ๊กโฟร์ อันประกอบด้วย โนวัค โจโควิช, โรเจอร์ เฟเดอเรอร์, แอนดี้ มาร์รี่ย์ และ ราฟาเอล นาดาล แต่สำหรับฤดูกาล 2013 นี้ เดอะบิ๊กโฟร์จะต้องเจองานท้าทายจากคู่แข่งอีกนับสิบนับร้อยผู้หิวกระหายความสำเร็จ ซึ่งคู่แข่งเหล่านั้นมีสิบคนที่มีแววที่สุดที่จะก้าวขึ้นมาเขย่าบัลลังก์ของเดอะบิ๊กโฟร์ทั้งสิบคนมีดัง
ราฟาเอล นาดาล
หนึ่งในผู้เล่นที่สำคัญที่สุดที่ต้องจับตามองแน่นอนว่าเป็น ราฟาเอล นาดาล ที่หายหน้าหายตาจากคอร์ตไปนานตั้งแต่เดือนกรกฎาคมเพราะบาดเจ็บเข่า อดีตมือหนึ่งโลกอยู่ในระหว่างการซ่อมแซมความสึกหรอของสุขภาพเพื่อกลับมาผงาดอีกครั้งในฤดูกาล 2013 แต่โชคร้ายที่ต้องรอไปจนกระทั่งหลังจบออสเตรเลียน โอเพ่น อันนี้เจ้าตัวเปิดเผยเองว่ากว่าทุกอย่างจะเข้าที่เข้าทางก็คงต้องรอให้ผ่านแกรนด์ สแลมแรกไปเสียก่อน
เมื่อใดก็ตามที่นาดาลกลับมามีสุขภาพที่แข็งแรงและสมบูรณ์อีกครั้ง เรื่องราวและความสำเร็จก็จะเริ่มต้นนับต่อโดยเฉพาะความสำเร็จในเมเจอร์ เขาจะยังคงคว้าแกรนด์ สแลม ได้เพิ่มเติมได้อีกหรือไม่ในฤดูกาล 2013 นั่นคือสิ่งที่เขาถูกจับตามองดูอยู่ คำตอบคงจะรู้ได้ไม่เกินกลางปี
ฮวน มาร์ติน เดล โปโตร
ถามว่ากระบวนการฟื้นตัวของ ฮวน มาร์ติน เดล โปโตร นักหวดร่างโย่งชาวอาร์เจนตินาเป็นเช่นใดในฤดูกาลที่ผ่านมา ?
ก็ต้องบอกว่าดีขึ้นตามลำดับแม้ว่ายังไม่ถึงขั้นสุดขีดในแบบที่เขาเคยทำได้ในปี 2009 คือการเป็นแชมป์แกรนด์ สแลม ยูเอส โอเพ่น
เจอร์ซี่ย์ ยาโนวิกซ์
นักหวดวัย 22 ปีร่างยักษ์จากโปแลนด์สร้างผลงานได้อย่างหวือหวาและเข้าตากรรมการระหว่างศึกบีเอ็นพี ปาริบาส มาสเตอร์ส ตอนปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ไม่มีใครปฏิเสธว่าเขาเล่นได้ประทับใจเพียงใดเพราะระหว่างเส้นทางของการเข้าชิง เขาเอาชนะผู้เล่นที่มีชื่อเสียงโด่งดังกว่าเขาทุกคนไม่ว่าจะเป็น มาริน ซิลิช, ชีลส์ ซิมง, ยันโก้ ทิปซาเรวิช, ฟิลิปป์ โคห์ลชไรเบอร์ และ แอนดี้ มาร์รี่ย์ ท้ายที่สุดคนที่ปราบเขาได้เป็นนักเทนนิสตัวเล็ก ดาวิด เฟร์เรร์แห่งสเปน แต่ก็ใช่ว่าจะสามารถหยุดยั้งเดอะบิ๊กแมนเจ้าของส่วนสูง 6 ฟุต 8 นิ้ว ให้เขยิบอันดับโลกจากที่ 69 มาอยู่ที่ 26 ได้ เมื่อได้มายืนตรงจุดนี้แล้ว ต่อไปเดอะบิ๊กแมนก็จะได้เข้าเล่นเมนดรอว์เกือบทุกทัวร์นาเมนต์ เมื่อนั้นโอกาสที่เขาจะได้ต่อยอดความสำเร็จก็มีสูงขึ้นเป็นเงาตามตัวไปด้วย เวลาจะตัดสินคุณค่าในตัวเขา และฤดูกาล 2013 น่าจะเป็นปีที่สดใสสำหรับผู้เล่นหมายเลขหนึ่งของประเทศโปแลนด์
เคอิ นิชิโคริ
เป็นผู้เล่นท็อปชายของญี่ปุ่น (และเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศไปแล้วฝ่ายชาย) เคอิ นิชิโคริ คือชื่อของเขาผู้สร้างชื่อจากการล้มผู้เล่นในระดับบิ๊กเนมมาแล้วหลายคน แต่ในขณะที่สามารถคว้าชัยชนะที่ฮือฮาได้ เขายังประสบปัญหากับการรักษามาตรฐานการเล่นให้คงเส้นคงวา และอาการบาดเจ็บที่เกิดขึ้นเป็นนิจ
ความคงเส้นคงวาของเขาเริ่มดีขึ้นตอนอายุ 22 ปี ฤดูกาล 2012 จึงได้เห็นเขาเข้าเล่นรอบแปดคนสุดท้ายแกรนด์ สแลม ทัวร์นาเมนต์เป็นครั้งแรกที่ออสเตรเลียน โอเพ่น จากนั้นได้เห็นเขาคว้าแชมป์เอทีพี ทัวร์สำเร็จเป็นรายการแรกนับแต่เทิร์นโปรในปี 2008 และยังได้เห็นอันดับโลกของเขาไต่ขึ้นสูงสุดถึงที่ 15 และในรายการแข่งระดับมาสเตอร์ส อีเวนต์ เขามีสถิติการเล่นดีที่สุดของตัวเองบันทึกได้ 8-6
แซม คเวียร์รี่ย์
ในสภาวะแบบนี้วงการเทนนิสชายของสหรัฐอเมริกาต้องการใครสักคนเข้ากอบกู้หลังจากเห็น แอนดี้ ร็อดดิค ได้ประกาศรีไทร์ไปเมื่อสิ้นสุดศึกยูเอส โอเพ่น อีกทั้ง มาร์ดี้ ฟิช ก็ประสบปัญหาสุขาภาพร่างกายและจิตใจ จึงไม่ได้เห็นนักเทนนิสอเมริกันชายหลงเหลืออยู่ในรอบลึกของแกรนด์ สแลม ทัวร์นาเมนต์กันเลย
อย่างไรก็ดีในช่วงหลังมานี้ แซม คเวียร์รี่ย์ มีสัญญาณบ่งบอกว่าจะกลายเป็นความหวังใหม่ให้วงการลูกสักหลาดชายอเมริกัน
ตอนต้นปี 2011 แซมเพิ่งจะฟื้นตัวจากการผ่าตัดข้อศอกและอาการป่วยจากการติดเชื้อ ช่วงที่เขาหยุดพักการเล่นไปอันดับโลกได้ตกลงไปถึงที่ 120
ไรอัน แฮร์ริสัน
พูดถึงอเมริกันเทนนิส ก็ต้องพูดถึง ไรอัน แฮร์ริสัน อีกคนหนึ่ง ในวัย 20 ปีไม่ใช่อายุที่สามารถดื่มสุราได้ตามกฎหมาย หากแต่หมายถึงเป็นเวลาเนิ่นนานถึง 10 ปีแล้วที่ ยังไม่มีอเมริกันแมนคนใดได้เป็นแชมเปี้ยนชายเดี่ยวแกรนด์ สแลม อีกเลยนับแต่ที่ แอนดี้ ร็อดดิค เป็นแชมป์ยูเอส โอเพ่นในปี 2003 นั่นคือภาระและความรับผิดชอบที่เต็มไปด้วยแรงกดดันบนบ่าทั้งสองข้างของนักเทนนิสชายอเมริกันทุกคน
ฤดูกาล 2013 อาจจะเป็นก้าวย่างที่สำคัญสำหรับวงการหวดชายอเมริกัน เพราะแรงกดดันอาจจะทำให้เกิดสิ่งใดสิ่งหนึ่งนอกเหนือความคาดฝันขึ้นได้ สิ่งที่น่ากังวลสำหรับแฮร์ริสันคือมันอาจจะเป็นการเยอะเกินไปในเวลาที่สั้นเกินไป ซึ่งมันได้เล่นงานนักเทนนิสดาวรุ่งของสหรัฐอเมริกามาแล้วไม่ว่าจะเป็น โดนัลด์ ยัง และ ไรอัน สวีติ้ง เขาจำเป็นต้องรู้ขีดจำกัดของตัวเอง ซึ่งไม่มีใครมาตีกรอบและขีดเส้นให้ได้ว่าจะต้องเป็นผู้ชนะแกรนด์ สแลม ตอนวัย 21 ปี
มิลอส ราโอนิก
ปีนี้ต้องตามดูกันต่อไปว่า มิลอส ราโอนิก จะสามารถปักธงแคนาเดี้ยน เทนนิส บนแผนที่โลกใบนี้สำเร็จหรือไม่ เพราะการก่อร่างสร้างตัวไต่เต้าขึ้นมาเป็นยังสตาร์ในวงการนั้นเขาแจ้งเกิดไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ถ้าจะเป็นยังสตาร์แบบเดิมคงไม่เพียงพอแล้ว
ปี 2012 ที่จบไปเป็นปีที่ดีมากสำหรับนักหวดตัวใหญ่ความสูงร่วม 6 ฟุต 5 นิ้ว เขาออกสตาร์ตอยู่อันดับ 31 ของโลกแต่ปิดท้ายปีอยู่อันดับ 13 ในขณะที่มีวัย 21 ปี ได้เล่นรอบชิงชนะเลิศระดับเอทีพี ทัวร์นาเมนต์ 4 ครั้ง ได้เป็นแชมเปี้ยนสองรายการ และยังมีผลงานในแกรนด์ สแลม และมาสเตอร์ส อีเวนต์ ดีที่สุดที่เคยทำได้
มาร์ดี้ ฟิช
เรื่องราวความสำเร็จจากการทำงานหนักของ มาร์ดี้ ฟิช ได้กลายเป็นแรงบันดาลให้กับแฟนเทนนิสจำนวนไม่น้อย
เป็นเวลานานมากที่เขาตกอยู่ภายใต้ร่มเงานักเทนนิสเพื่อนร่วมรุ่นในประเทศสหรัฐอเมริกาทั้ง เจมส์ เบล็ค และ แอนดี้ ร็อดดิค แต่ว่าในปี 2010 ฟิชลดน้ำหนักตัวเองลงไป 30 ปอนด์ และสามารถทำอันดับโลกขึ้นสูงสุดที่ 7 ในปี 2011 เปลี่ยนสถานะจากตัวประกอบขึ้นมาเป็นพระเอกในบัดดล
แต่มาถึงตอนนี้สงครามครั้งสุดท้ายของฟิชเปลี่ยนโฉมหน้า เพราะคู่แข่งของเขาไม่ใช่คู่แข่งที่อยู่ฝั่งตรงข้ามอีกต่อไป แต่หากเป็นโรคหัวใจที่เต้นผิดปกติต่างหากที่คุกคามเทนนิสอาชีพ หรือแม้กระทั่งถึงขึ้นชีวิตของเขาเอง ภายหลังการถอนตัวจากการแข่งขันเฟร้นช์ โอเพ่น ในเดือนพฤษภาคมฟิชได้เปิดเผยปัญหาสุขภาพหัวใจของเขาต่อสื่อ จากนั้นลงแข่งขันได้ไม่ต่อเนื่อง และไม่เห็นเขาเล่นอีกเลยนับแต่ยูเอส โอเพ่น
ตอนสิ้นปีอันดับโลกของเขาอยู่ที่ 27 เขาถอนตัวจากศึกออสเตรเลียน โอเพ่น แต่มีแผนการที่จะกลับลงสนามในเดือนกุมภาพันธ์
ฮวน โมนาโก
ช่วงเริ่มต้นของปี 2012 คุณอาจจะยังถามไถ่กันว่า ''ฮวน โมนาโกคือใคร ?''
พอถึงกลางปีหนุ่มคนนี้กลายเป็นมืออันดับ 15 ของโลก แต่คุณยังอาจไม่รู้จักเขาอีกนั่นแหละ หรือแม้กระทั่งเขาได้เป็นท็อปเทนอยู่แล้ว คุณก็คงยืนยันคำถามเดิมอยู่
นักหวดวัย 28 ปีชาวอาร์เจนตินา ทำอันดับโลกขึ้นไปถึงที่ 10 สูงสุดในปีที่ผ่านมา และเกือบจะติดชาร์ตท็อปเทนตอนสิ้นฤดูกาลหลังจากที่แช่อยู่ที่ระดับ 40 อยู่นานหลายปี จนกระทั่งมาได้ผลงานที่ดีในระดับมาสเตอร์ส อีเวนต์ถึงห้ารายการจากทั้งหมดเก้ารายการ และผลงานดีในแกรนด์ สแลม สองรายการจากทั้งหมดสี่รายการ
ดาวิด เฟร์เรร์
ดาวิด เฟร์เรร์ ก้าวขึ้นมายืนริมตลิ่งแล้วสำหรับผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้เล่นดีที่สุดที่ยังไม่ชนะแกรนด์ สแลม คือพูดแบบให้เข้าใจง่ายที่สุดก็คือ เขาขอชัยชนะอีกเพียงสองแมตช์เท่านั้นก็จะได้เป็นแชมเปี้ยนเมเจอร์แล้ว
แต่เอาล่ะอย่างไรเสียประตูแห่งความหวังไม่ใช่ปิดตายซะเลยทีเดียวสำหรับนักเทนนิสรุ่นใหญ่วัย 30 ปีแล้ว เพราะหลังจากจบออสเตรเลียน โอเพ่น นักหวดสเปนอาจจะขึ้นมาเป็นท็อปโฟร์ของโลก การเล่นของเขาในฤดูกาลที่ผ่านมา สถิติที่ไม่เคยโกหกใครบ่งชี้ว่า ค่าเฉลี่ยของเขาในการพบกับผู้เล่นมือท็อปเทนด้วยกันอยู่ที่ .500 ในขณะที่ค่าเฉลี่ยตลอดทั้งอาชีพที่เขาเล่นมาอยู่แค่เพียง .376